บุกแจ้งข้อหา พระชราภาพนั่งรถเข็น...สั่งให้ออกจากพื้นที่และรื้อวัดทิ้ง !!


ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ??

นำกองกำลังบุก !! แล้วแจ้ง ข้อกล่าวหาว่ามีคนบุกรุกพื้นที่อุทยาน 

พระชราภาพนั่งรถเข็น เป็นผู้รับเอกสาร
สั่งให้ออกจากพื้นที่ ในส่วนที่บุกรุก
และรื้อถอนวัด (ในส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก)
ที่ท่านสร้างกับชาวบ้านมา 




หรือจะเป็นการส่งข้อความเตือนว่า
หากใครให้ความร่วมมือกับธรรมกายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจะต้องโดนดี?
เหมือนวัดถ้ำเนรมิต จ.กาญจนบุรี




ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ไม่ได้เป็นคนวัดธรรมกาย ไม่ได้เป็นศิษย์ธรรมกาย
ได้เดินทางไปพบเจ้าอาวาสที่กำลังชราภาพ
และได้โพสต์แสดงความเห็นว่า...


จากป้ายแสดงว่า เป็นวัดที่ 9 ที่ถูกแจ้งความจับกุม
หลวงพ่ออาพาธ...นั่งรถเข็นคงสะใจพวกอมนุษย์แล้วนะ
ตามภาพ เห็นเจ้าหน้าที่ยกกำลังเป็นร้อย นึกว่าจะไปปราบโจรใต้
ที่ไหนได้มาบุกวัด !!!




ดูวัดซิครับ..กว่าจะสร้างได้ขนาดนี้ ทั้งเงิน ทั้งเวลา เจ้าหน้าที่เพิ่งเห็นว่าบุกรุกอุทยาน
ตอนสร้างทำไมไม่ห้าม ปล่อยมาได้อย่างไร ถ้าผิดจริง
ผ่านมาจนเจ้าอาวาสเดินไม่ได้แล้ว..หมายความว่าอะไร

จะมองว่าเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่หรือ? ...คนนะไม่ใช่ควายถึงจะเชื่อ



เหตุใด...พระที่เคยบวชวัดพระธรรมกายจึงถูกโดนคดีกันเป็นแถว

ทำอย่างนี้หมายความว่าอะไร?

คดีอาญามีอายุความ สูงสุดไม่เกิน 20 ปี
วัดสร้างมาก่อนสงครามโลก บุกรุกก็บุกรุกตอนสร้างวัด
ซึ่งสมัยนั้นไม่มีกฎหมายที่ดิน กฎหมายป่าไม้ฯ
วัดที่เห็นตามภาพเป็นการบูรณะ.ในภายหลัง
แล้วผิดได้อย่างไรทนายงง ??

สงสัยต้องรื้อวัดทั้งประเทศแล้วมั๊ง
เปลี่ยนเมืองไทยไปนับถือศาสนาอื่นดีกว่าไหม..
พุทธทำลายพุทธสะใจจัง



..
จบข้อมูลจาก ทนายนิทัศน์

_____________



ข้อมูลจากคุณ Chayutra Dechsuriyakorn >>>

ผมบวชเป็นเณรอยู่วัดถ้ำเนรมิตตั่งแต่ปี 2536 
หลวงพ่อสมบูรณ์ไปอยู่พัฒนาวัดจากวัดร้างตั้งแต่ ปี 2534 
(หลวงพ่อสมบูรณ์ ไม่ใช่ เจ้าอาวาสองค์แรก)


วัดถ้ำมีเนื้อที่ 94 ไร่ ตั้งแต่ "ก่อน"สงครามโลก 
ตั้งแต่ "ก่อน" ประกาศเป็นอุทยาน 
ตั้งแต่ก่อนที่หลวงพ่อสมบูรณ์ 
และผม จะไปอยู่ซะอีก 


จะถามหา นส. 3 รึ !!!
ทั้งอำเภอศรีสวัสดิ์ไม่มีใครมี มีใบรับรองวัดถูกต้อง 
กรมป่าไม้ ยิงgps ถูกต้อง 
แต่มาวันนี้หาว่า บุกรุก 
ถ้าจะเอาจริงๆ ตั้งแต่วัดถ้ำพระธาตุ ถึงน้ำตกแม่ขมิ้น 
ไม่มีใครมีเอกสารสิทธิ์สักคน 
แต่ เค้าอยู่มาก่อนจะประกาศเป็นอุทยานซะอีก 
อย่าว่าแต่หลวงพ่อสมบูรณ์จะบุกรุกป่าเลย 


ถ้าไม่มีใครเข็นวีแชร์ให้ท่าน ท่านก็ไปไหนไม่ได้แล้ว 
ข้อมูลผมมีเยอะกว่านี้อีก 
แต่พิมพ์ทางโทรศัพท์ไม่สะดวกเท่าไหร่ 
อย่าให้ อคติบดบังปัญญา ชีวิตบนโลก 
แค่ไม่กี่หมื่นวัน คิดๆดูนะครับ 
ปล. ถ้าช่วงไหนผมว่างผมก็จะขับรถไปกาญฯเพื่อเช็ดตัวให้ท่าน

...

ตอน 3 รู้แล้วจะหนาว!!.. เมื่อครูบาบุญชุ่มพูดถึงอนาคตของพระธัมชโย

รู้แล้วจะหนาว!!..
เมื่อครูบาบุญชุ่มพูดถึงอนาคตของพระธัมชโย



อ่านบทความย้อนหลัง>>>
ตอนที่ 1 :
การเดินทางเพื่อพบครูบาบุญชุ่ม
http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/07/900.html
ตอนที่ 2 :
เผยความลับที่ถูกซ่อนไว้
http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/07/kubarboonchum-2.html

///---จากความเดิมตอนที่แล้ว... 
ครูบาบุญชุ่มได้บอกว่า "ท่านเองก็รู้จักหลวงพ่อธัมมชโย และเป็นลูกศิษย์ท่านเหมือนกัน พร้อมทั้งถ่ายรูปหมู่ โดยถือภาพหลวงพ่อธัมมชโยไว้ในมือ และขอหนังสือเล่มนี้ไว้ไปอ่านไปศึกษา"



//--- หลังจากที่นั่งสมาธิเสร็จแล้ว เวลาที่เรารอคอยก็มาถึงครับ แฟนเพจไม่รอช้า เขารีบกระซิบบอกครูบาบุญชุ่มในทันทีว่า //ช่วงนี้พระพุทธศาสนาในไทยกำลังโดนถูกรุกหนักจากศาสนาอื่น ครับ...//

>>>ท่านพยักหน้าพร้อมกับพูดเบาๆว่า  "ครูบารู้แล้วๆ"


///....แฟนเพนยังมีคำถามที่ยังค้างคาใจอยู่.... จึงรีบถามท่านไปอีกว่า...
// สถานการณ์ตอนนี้ จะทำอย่างไรดีครับ...//
>-----ครูบาบุญชุ่มท่านตอบมาอย่างง่ายๆ เหมือนกับท่านทราบวิธีการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้อยู่แล้ว...
v
...
v
...



v
...
v
...

"ไม่มีอะไร ดีทุกอย่างแล้ว" 

"แต่ขอให้สวดมนต์ก็แล้วกันนะ"
......



>>---สิ่งที่ครูบาชุ่มท่านพูดออกมานั้น ทำให้แฟนเพจ Surprise!! อีกครั้งเพราะมันตรงกันกับที่
หลวงพ่อธัมมชโยให้พวกเราทำอยู่ในตอนนี้ นั่นก็คือ การสวดธัมจักรฯให้ครบล้านจบ นอกจากนี้
หลวงพ่อธัมมชโย ท่านยังมีโครงการสวดธัมจักรฯให้ครบ 2 ล้านจบ ที่เมียร์ม่าอีกด้วย...
>>>---เหมือนกับว่าครูบาบุญชุ่ม  ท่านได้ยืนยัน  สิ่งที่หลวงพ่อให้ลูกๆทุกคน มาสวดมนต์ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ตรงกัน ทั้งยังเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด...



///--แฟนเพจยังไม่หมดคำถามนะครับ จึงถามท่านต่อไปอีกว่า...
//เหตุการณ์ครั้งนี้จะจบลงอย่างไรครับ...//
v
...
v
...


v
...
v
...
"ไม่ต้องกังวลเลย เดียวจะดีทุกอย่างเลย"
"หมู่มารทำร้ายหลวงพ่อไม่ได้"
......

>-----เมื่อแฟนเพจ ได้ยิน ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ก็โล่งอก... แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะนิ่งนอนใจวางอุเบกขากันนะ ให้เชื่อมั่นในบุญ เชื่อมั่นในหลวงพ่อ และเห็นความสำคัญของบุญนั้นๆ โดยเฉพาะบุญสวดธัมมจักฯ เราก็ต้องมาสวดกันเยอะๆ ที่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ // ถ้ามาสวดธัมมจักฯกันแล้ว เราจะมีบุญมาก ทำให้สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ไม่ดี ไปได้อย่างง่ายๆ และสุดท้ายหมู่มารก็จะทำร้ายหลวงพ่อไม่ได้ ...//


//....ครูบาบุญชุ่มท่านได้มอบพระของขวัญ และท่านยังได้ฝากของมาให้กับหลวงพ่อธัมมชโยอีกด้วย...//





///....ครูบาบุญชุ่มท่านพูดยังกำชับกับแฟนเพจอีกว่า...//

V
..
V
..
V
...


"ให้ช่วยกันดูแลหลวงพ่อให้ดีๆนะ..."
"อย่าให้มีอะไรมาเกาหลวงพ่อ"

"ครูบาจะไปนั่งสมาธิที่ถ้ำ จะอธิษฐานให้หลวงพ่อ"

"ขอให้หลวงพ่อชนะมาร"

"ให้หลวงพ่อแข็งแรง"
.....

///....จากนั้น ท่านได้ชวนถ่ายรูปร่วมกันด้วย แฟนเพจตื่นเต้นมากๆ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสดีๆอย่างนี้...//




////...หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ครูบาบุญชุ่มต้องรีบเดินทางต่อ เพื่อไปเข้าถ้ำ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลและใช้เวลาเดินทางนาน แฟนเพจได้มีโอกาสเดินตามไปส่งท่านขึ้นรถ ท่านได้หันมาพูด ก่อนที่ท่านจะขึ้นรถ ว่า...// 


>> "เดี๋ยวออกพรรษาแล้วให้มาพบกันใหม่นะ" <<



>----การได้ไปพบครูบาบุญชุ่มในครั้งนี้ เป็นเหตุอัศจรรย์มากๆ เพราะครูบาบุญชุ่ม ท่านไม่ใช่พระธรรมดาทั่วไป เป็นพระเกจิในสายปฎิบัติคุณธรรม คุณวิเศษของท่านมีมากมาย และท่านเป็นที่ศรัทธาของมหาชนชาวเมียร์ม่าเป็นอย่างมาก แม้ผู้นำระดับประเทศก็ยังเป็นลูกศิษย์ของท่าน....

>>---ครูบาบุญชุ่ม ท่านศรัทธาหลวงพ่อธัมมชโย ยกให้หลวงพ่อฯเป็นอาจารย์และแทนตัวเองว่าเป็นลูกศิษย์ อีกทั้งท่านยังปฏิบัติธรรมในแบบ ภาวนา "สัมมา อะระหัง" "นึกถึงดวงแก้ว" "นึกถึงนิพพาน"  เหมือนกับท่านยืนยันให้พวกเรา เห็นว่า แนวทางการปฏิบัติธรรม ที่หลวงปู่วัดปากน้ำ หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนเรานั้น เป็นเส้นทางสายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสายไหน ก็ต้องปฎิบัติเหมือนกัน สายเดียวกัน คือ ทางสายกลางมุ่งสู่นิพพานเหมือนกัน...




///จากคำที่ครูบาบุญชุ่ม พระสายปฏิบัติ ท่านแนะนำให้สวดมนต์ ทีมงานแอดมิน อยากน้อมนำบทเทศน์ของพระครูวินัยธรสุวิทย์ สุวิชฺชาโภ มาขยายความว่า ทำไมถึงต้องสวดมนต์บทธัมมจักฯ และมนต์บทนี้มีความสำคัญอย่างไร....///
คลิ้กที่วีดีโอ ด้านล่าง
v
...
v
...


v
...
v
...

>>---โดยเฉพาะสถานการณ์ในตอนนี้ สิ่งที่อยากให้พวกเราทำ คือ การสวดธัมมจักกัปวัตนสูตร บูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ให้ครบล้านจบ... 

"เมื่อตราบใดที่ธัมจักรยังขับเคลื่อน พระพุทธศาสนาจะยังดำรง
ตราบใดที่ธัมมจักรยังรุ่งเรื่อง พระศาสนาก็ยังรุ่งเรือง"


ติดตามพวกเราได้ที่
FB : พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต
https://www.facebook.com/protectpapa/


เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้แล!!! 
ถ้าชอบกดไลก์ ถ้าใช่กดแชร์ คอมเม้นท์ได้นะ แต่อย่างแรง
...สุดท้ายมาสวดมนต์ด้วยกันน้า...

ตอน 2 เผยความลับที่ถูกซ่อนไว้ ระหว่างพระเกจิชื่อดัง กับ หลวงพ่อธัมมชโย

เผยความลับที่ถูกซ่อนไว้
ระหว่างพระเกจิชื่อดัง กับ หลวงพ่อธัมมชโย



ความเดิมตอนที่ 1
http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/07/900.html

>-----หลังจากเมื่อวาน แฟนเพจท่านนี้ได้เดินทางมาถึง มีคนมารอพบครูบาฯ อยู่ก่อนแล้ว 2-3 คณะ ช่วงจังหวะที่รอ แฟนเพจเราก็ได้พูดคุยกับ 'Mr.J' ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครูบาบุญชุ่ม กับประสบการณ์โดยตรงให้ฟัง...



>-----ทางแฟนเพจขอหยิบยก เรื่องราวที่ได้สนทนากับลูกศิษย์ของครูบาฯ เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน มาเล่าให้ฟัง พอเป็นน้ำจิ้มสักเล็กน้อยนะครับ...

>-----'Mr.J' เล่าว่า เขาศรัทธาครูบาบุญชุ่มมานานกว่า 20 ปีแล้ว ครูบาฯท่านมีลูกศิษย์มากมาย ตั้งแต่ระดับประชาชนทั่วไป คหบดี ไปจนถึงผู้นำระดับสูงๆ ในประเทศเมียนมาร์ ครูบาบุญชุ่มฯ ถือว่าเป็นบุคคลประวัติศาสตร์ หากใครได้พูดชื่อครูบาฯไม่มีใครไม่รู้จักท่าน ท่านเป็นพระที่ทำพิธีกรรมเปลี่ยนสุวรรณฉัตร ที่ยอดเจดีย์ชเวดากอง พิธีนี้ชาวเมียนมาร์จะให้ความสำคัญมาก พิธีนี้เกิดขึ้นมาแล้วแค่ 3ครั้งในรอบ 2,010 ปี ในแต่ละครั้ง พระที่ทำพิธีกรรมมีเพียงแค่ 1 รูปเท่านั้น ซึ่งพระรูปนั้นก็คือ ครูบาชุ่มนั่นเอง...




==แอบอัดเสียง  ครูบาก็รู้==
         ระหว่างที่ได้สนทนากับครูบาบุญชุ่มอยู่นั้น เพื่อนของ 'Mr.J' ได้แอบอัดเสียงครูบาบุญชุ่มด้วยเครื่องmp3 ครูบาฯก็เอ่ยขึ้นว่า "ไม่ต้องอัดเสียงท่านนะ" ซึ่ง'Mr.J' ก็งงว่าใครอัดเสียงท่าน ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าตัวที่เป็นเพื่อน 'Mr.J' ที่แอบอัดเสียงก็ตกใจ ท่านรู้ได้อย่างไร? ว่าเขาแอบอัดเสียงอยู่ ทั้งๆที่เครื่องmp3 ก็เป็นเครื่องเล็กนิดเดียว...




>>ถัดมาคนที่สองคือ พี่นาง เจ้าของบ้าน<<
          'พี่นาง'เป็นลูกศิษย์อีกท่านหนึ่ง ที่ได้พูดคุยด้วย 'พี่นาง'เป็นชาวไทยใหญ่ ทำธุรกิจส่งสินค้าจากฝั่งท่าขี้เหล็กเข้ามาฝั่งไทย สามีเป็นกำนันในฝั่งท่าขี้เหล็ก ครอบครัวของพี่นางศรัทธาครูบาบุญชุ่ม ตั้งแต่สมัยรุ่นคุณยาย คุณแม่ และมาจนถึงตัวของพี่นางเอง...

         ...'พี่นาง'จะคอยช่วยทีมงานอุปัฏฐากครูบาบุญชุ่ม เวลาครูบาฯ อยู่กรรม(เข้าถ้ำ) 'พี่นาง' จะเป็นคนจัดเตรียมภัตตาหารสำหรับถวายท่าน โดยจะนำภัตตาหาร ซึ่งเป็นเพียงผลไม้เท่านั้น ไปวางไว้ที่ปากถ้ำ พี่นางเล่าให้ฟังว่า ครูบาฯท่านจะฉันแค่เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็แล้วแต่ว่า ท่านจะฉันหรือไม่ บางเดือนก็ฉัน หรือบางเดือนก็ไม่ฉัน...

        
>>อีกท่านคือคุณชายหนุ่มและคุณคำหลี<<
        'คุณชายหนุ่ม' เป็นชาวไทยใหญ่ ทำธุรกิจขายหยกในเมียนมาร์ 'คุณชายหนุ่ม' จะคอยเป็นสารถี และคอยอุปัฏฐากท่านครูบา เวลาท่านไปปฏิบัติสมณกิจ หรือเวลาไปพบคณะศรัทธาต่างๆ...


    ...'คุณชายหนุ่ม' เล่าให้ฟังว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พึ่งขับรถพาครูบาฯไปที่เมืองเนปีดอ เพื่อพบกับนางอองซานซูจี เพราะเจ้าชายจิกมี่ฝากสาส์นแสดงความยินดีมามอบให้ หลังจากนั้นครูบาท่านได้ไปเข้าพบกับนายพลต่าน ฉ่วย ซึ่งผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาร์... 


==ท่านเป็นคนง่ายๆ==
       'คุณชายหนุ่ม' ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับครูบาฯว่า ครูบาท่านเป็นคนง่ายๆ สบายๆ พูดสั้นๆไม่พูดเยอะ ครั้งหนึ่งมีครอบครัวหนึ่งมากราบ ในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ ท่านก็ให้พรขอให้รวยๆๆ คุณชายหนุ่มก็ได้ยินแค่นี้แหละ ไม่ได้สนใจอะไร ผ่านมาไม่นาน ครอบครัวนี้เขาก็รวยจริงๆ จนตอนนี้เป็นเถ้าแก่โชว์รูมขายรถรายใหญ่ในฝั่งท่าขี้เหล็ก

   ....มีเรื่องที่'คุณชายหนุ่ม'เจอกับตัว ตอนได้ลูกคนที่สาม ตอนนั้นภรรยาเขายังไม่ได้ตั้งครรภ์ ครูบาฯท่านบอกว่า เดี๋ยวไม่นานจะมีเด็กมาเกิดนะ เป็นเด็กผู้ชาย คุณชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ผ่านมาอีกไม่ถึง 2เดือน ภรรยาคุณชายหนุ่มก็ได้ตั้งครรภ์ และได้ลูกชายจริงๆ...

>-----หลังจากที่ได้พูดคุยกับลูกศิษย์คนสนิทของครูบามา 3 ท่านแล้ว ก็พอได้ทราบ คุณธรรม คุณวิเศษ ของครูบาฯ ว่าพระเกจิรูปนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ การที่จะได้เข้าพบท่านนั้น ก็ไม่ได้ง่ายๆเลย ต้องระดับสูงๆ และเวลาของท่านส่วนใหญ่ ก็มีไม่มากนัก เพราะท่านจะเน้นอยู่กรรมเข้าถ้ำ เป็นส่วนใหญ่...






>>>ถึงคิวที่จะได้พบครูบาบุญชุ่มแล้วครับ<<<

>-----หลังจากนั่งรอได้ไม่นานนัก ครูบาบุญชุ่มรับแขกเสร็จเรีบยร้อยแล้ว ท่านก็เรียกแฟนเพจเข้าไปกราบ...

>-----แฟนเพจเล่าว่า เริ่มต้นด้วยการถวายเครื่องอัฐบริขาร มีชุดผ้าไตรจีวรแบบพระพม่า เทียนพรรษา 2 เล่มและผ้าอาบน้ำฝน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรมาก กะว่าจะถวายท่านพอเป็นพิธี เมื่อท่านรับแล้ว ท่านได้บอกว่า "สิ่งของเหล่านี้ท่านจะนำไปใช้ในถ้ำช่วงอยู่กรรม" ทำให้แฟนเพจท่านนี้รู้สึกประทับใจอย่างสุดๆ...



 >-----จากนั้น 'Mr.J' ได้แนะนำแฟนเพจให้กับครูบาบุญชุ่มทราบว่า... 
"ชุดนี้เป็นคณะลูกศิษย์ของหลวงพ่อธัมมชโย จากวัดพระธรรมกาย"

>>...เมื่อครูบาบุญชุ่มท่านทราบ ท่านก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดีใจว่า... 

V
V
V
V

"ครูบาก็รู้จักหลวงพ่อธัมมชโยเหมือนกัน"

"ครูบาก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อธัมมชโยเหมือนกัน"

"นึกถึงสมัยปี 42 ที่ได้พบกับหลวงพ่อธัมมชโย"

"นึกถึงสมัยปี 42 เนอะ..."




>-----เมื่อได้ยินเช่นนั้น แฟนเพจรู้สึกดีใจและรู้สึกประหลาดใจ ในเรื่องที่ดีใจก็คือ ครูบาท่านรู้จักหลวงพ่อ ท่านเคารพหลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์เหมือนกัน แต่ในเรื่องที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจนั้นคือ ท่านบอกว่าท่านเคยพบหลวงพ่อ แฟนเพจค่อนข้างตกใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อน ว่าท่านไปพบกันตอนไหน...
>-----จากนั้นครูบาท่านได้เปิดโอกาสให้แฟนเพจได้ถ่ายรูปร่วมกับท่าน ซึ่งมารู้กันทีหลังว่า ปกติท่านไม่ชอบให้ใครมาถ่ายรูปกับท่าน ภาพที่ถ่ายนั้น ครูบาท่านได้ถือรูปของหลวงพ่อธัมมชโยด้วย และท่านยังขอรูปนี้ไปด้วย ท่านบอกว่า...







"ครูบาชอบรูปนี้ ครูบาขอนะ"

      
>-----หลังจากนั้นครูบาบุญชุ่ม ท่านได้ชวนนั่งสมาธิ และมีเหตุการณ์ที่ทำให้แฟนเพจท่านนี้ถึงกับตกใจอีกครั้ง ท่านได้พูดออกประโยคหนึ่ง ทำเอาถึงกับขนลุก ขนชัน และเป็นการตอกย้ำว่า ครูบาท่านรู้จักหลวงพ่อธัมมชโยจริงๆ ว่า...


"เดี๋ยวเรานั่งสมาธิกัน เข้าธรรมกาย..."

"สัมมาอะระหัง... สัมมาสัมพุทธโธ..."



>-----เมื่อพวกเราหลับตา ท่านได้นำพวกเรานั่งสมาธิ ในลักษณะคล้ายๆกับหลวงพ่อธัมมชโย...

V
V

V
"ให้สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง..."
"ให้นึกถึงดวงแก้วนะ..."
"ให้นึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์นะ..."


>-----ระหว่างที่พวกเรานั่งหลับตาทำสมาธิกันอยู่นั้น ครูบาบุญชุ่ม ท่านก็ได้สวดมนต์เป็นภาษาไทยใหญ่ เหมือนกับการสวดปัดเป่าความไม่ดีออกไป และเสริมบุญบารมีให้กับหลวงพ่อธัมมชโยด้วย นึกไม่ถึงเลยว่า ท่านจะนำนั่งสมาธิแบบหลวงพ่อเราเลย เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า ท่านก็ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเหมือนกัน...


         หลังจากที่นั่งสมาธิเสร็จแล้ว เวลาที่เรารอคอยก็มาถึงครับ แฟนเพจไม่รอช้า รีบกระซิบถามครูบาบุญชุ่มในทันทีว่า ช่วงนี้พระพุทธศาสนาในไทยกำลังโดนถูกรุกหนักจากศาสนาอื่น ครับ...


        ครูบากำลังจะตอบคำถามหรือไม่?แล้วจะตอบว่าอย่างไร?

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ....^_^ 
ตอนที่ 3
http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/07/kubarboonchum-3.html

........................................................................................


ทิ้งท้าย : ถ้าชอบก็กดไลก์ ถ้าโดนใจก็รีบแชร์ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆคอมเม้นท์ได้นะแต่อย่าแรง!!!


ติดตามพวกเราได้ที่
FB:พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต

ตอน 1 การเดินทางกว่า 900 กม. เพื่อพบครูบาบุญชุ่มพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา

การเดินทางกว่า 900 กม.
เพื่อพบครูบาบุญชุ่มพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา



      ทางทีมงานได้รับสาสน์จากแฟนเพจมาว่า มีการติดต่อมาจากลูกศิษย์ คนสนิทของครูบาบุญชุ่มท่านหนึ่ง แฟนเพจท่านนี้ขอเรียกพี่เขาว่า 'Mr.J' 



       พี่เขาสามารถพาแฟนเพจ ไปกราบครูบาบุญชุ่มได้ แฟนเพจก็รีบตอบตกลงทันที (คิดในใจ เป็นบุญแท้ๆ จะได้ถือโอกาสนี้ไปกราบท่าน และซักถามประเด็นข้อสงสัย เรื่องสถานการณ์พระพุทธศาสนา และกรณีหลวงพ่อธัมมชโย...)

        'Mr.J' บอกกับแฟนเพจว่า มีเวลาแค่วันพรุ่งนี้ ก่อนเพลเท่านั้น!!!
เพราะท่านจะไปอยู่จำพรรษา  3 เดือน ซึ่งท่านจะเข้าถ้ำในพม่า แต่ถ้าเลยวันพรุ่งนี้ไป จะได้เจอท่านอีกที คือ นู้น...หลังวันออกพรรษาเลย



        ช่วง 14.00 น. 'Mr.J' ได้ติดต่อมาอีกครั้งว่า ได้เรียนครูบาบุญชุ่ม ให้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าจะมีแฟนเพจท่านนี้เข้าไปกราบ ณ ตอนนี้ท่าน พักอยู่ห่างจากด่านแม่สาย ประมาณ 2 ชม. 
        เมื่อทราบดังนั้น แฟนเพจไม่รอช้า รีบเก็บข้าวเก็บของ แต่ดันลืมไปว่า ช่วงนี้จะเข้าพรรษาเป็นวันหยุดยาว คนแห่กลับตจว. ครั้นจะไปเครื่องบิน ก็ดันเต็มทุกไฟลท์ รถบัสก็เต็มอีก ทางเลือกน้อยลงทุกที แฟนเพจใช้เวลานานกว่า ๑ ชม.(สุดท้ายติดต่อไปที่บริษัทแห่งหนึ่ง แนะนำรถตู้ แต่ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธที่จะรับงาน เพราะขับตอนกลางคืน ระยะทางก็ไกล บวกกับคนขับไม่ได้เตรียมตัว และเป็นงานด่วน) แต่สุดท้ายก็แพ้ใจแฟนเพจท่านนี้ ได้รถตู้สำเร็จ อาจจะเป็นเพราะบุญที่คอยช่วยเอาไว้ 



เริ่มต้นออกเดินทางกัน ตอน 18.00 น.

      ก่อนออกเดินทาง 'Mr.J' ได้บอกว่า คืนนี้ ครูบาฯท่านจะมาพักอยู่ใกล้ด่านแม่สาย เดินจากด่านประมาน 30 นาที แต่เดิมท่านจะพักไกลต้องใช้เวลาเดินทางออกไปอีก 2 ชม. 'Mr.J' ยังบอกอีกว่า การที่อยู่ดีๆ ครูบาฯท่าน จะขยับที่พักเข้ามาใกล้บุคคลผู้เข้าพบนั้น เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย แฟนเพจจึงคิดว่า การที่จะไปครั้งนี้ ครูบาฯคงรู้แน่นอนเลย ว่าการมาของครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านจึงลงมาเพื่อที่จะรอพบ...

       แฟนเพจเหล่าว่า ระหว่างการเดินทางค่อนข้างลำบากเหมือนกัน เพราะฝนตก ลดพัดแรงเป็นช่วงๆ เกือบตลอดเส้นทาง ทั้งคนขับต้องรีบทำเวลาให้ไปถึงที่นั่นก่อน 6 โมงเช้า จึงต้องอาศัยความชำนาญของคนขับรถเป็นอย่างมาก



       แฟนเพจมาถึงที่แม่สายตอน 05.30 น. ซึ่งด่านจะเปิด ตอน 06.30 น. แต่การที่จะผ่านแดนนั้น แฟนเพจต้องรอทำเรื่องผ่านแดนก่อน ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จะเปิดทำการเวลา 08.30 น. ขั้นตอนผ่านแดนค่อนค้างยุ่งยากอยู่พอสมควร ทั้งเรื่องคน เรื่องรถ ทั้งคนไทยและมีเพื่อนชาวต่างชาติไปด้วย แต่ถ้ารอทำเรื่องให้เสร็จคาดว่างานนี้คงไม่ทันเวลาแน่ๆ ด้วยเหตุอัศจรรย์ เหมือนโชคเข้าข้าง มีท่านผู้ใหญ่ใจดี ได้ทำการประสานเรื่องการผ่านแดน ทำให้ลดขั้นตอนในการทำเรื่องผ่านแดนไปได้โดยไม่ยากนัก...




       แต่พอถึงด่านจริงๆแล้ว ถ้าคนไทยก็สามารถผ่านได้โดยไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาเกิดขึ้นแล้วสิครับ ดันลืมไปว่า มีเพื่อนชาวต่างชาติมาด้วย เพราะการผ่านแดนในลักษณะนี้ ไม่สามารถทำได้ ต้องผ่านแบบเดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น จึงเสียเวลากับการเคลียร์ปัญญาเกือบร่วมชัวโมง

       การเคลียร์เอกสารที่ด่านพม่านั้น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก แฟนเพจรู้สึกเป็นกังวลใจ กลัวว่าจะไม่ทันกาลเอา ที่จะได้พบท่านครูบาฯ ...แต่อยู่ดีๆ ก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาจากลูกศิษย์ฝั่งพม่าว่า ครูบาบุญชุ่มท่านรออยู่  และยังได้ส่งคนขับรถของท่าน ให้มารอรับ ที่ด่านท่าขี้เหล็กอีกด้วย เหมือนเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นอีกครั้ง อยู่ดีๆทางด่านพม่านั้นก็ ให้คณะสามารถผ่านแดนได้เป็นไปได้ง่ายๆ เหมือนกับว่ามีบุญจากครูบาบุญชุ่มมาช่วยให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น... 


        หลังจากเคลียร์เอกสารที่ด่านทั้งไทยและพม่าเรียบร้อยแล้ว แฟนเพจจึงรีบมุ่งหน้าไปหาครูบาฯที่บ้าน ของลูกศิษย์ที่ครูบาฯท่านรออยู่ ซึ่งอยู่ในอำเภอท่าขี้เหล็กของฝั่งพม่า บรรยากาศประเทศเพื่อนบ้านเรา ก็คล้ายๆกับฝั่งไทย เราใช้เวลาประมาณสักครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย...




        สถานที่ทางแฟนเพจเราไปถึงนั้น มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น  เป็นบ้านในแบบชาวไทยใหญ่ แฟนเพจเราได้ขึ้นไปชั้น2เพื่อรอพบครูบาฯ และมีคณะลูกศิษย์ของครูบา ประมาณ 2-3 คณะ ที่รอกราบท่านอยู่... 

***--บรรยากาศภายในห้อง


บ้านที่เจ้าภาพสร้างถวายเพื่อสำหรับรับรองครูบาบุญชุ่ม

         ตอนนี้แฟนเพจเราก็ได้มาถึงสถานที่ที่จะพบครูบาบุญชุ่ม พระเกจิผู้มีบุคคลศรัทธาเป็นจำนวนมาก แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น



โปรดติดตามตอนต่อไป.....
http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/07/kubarboonchum-2.html

ทิ้งท้าย: การไปพบครูบาฯได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ